top of page
รูปภาพนักเขียนOpp

Road Trip ญี่ปุ่นตามดูฟูจิ ฝึกจิตใจให้ปล่อยวาง - ตอนที่ 1 คาวากูจิโกะ & ชิซูโอกะ

อัปเดตเมื่อ 28 ธ.ค. 2567


คาวากูจิโกะ ชิซูโอกะ kawaguchiko shizuoka เที่ยวญี่ปุ่น

เดือนที่เดินทาง - พฤศจิกายน 2024


ผ่านไป 5 ปีแล้วที่ไม่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น ญี่ปุ่นน่าจะเป็นประเทศที่ไปซ้ำบ่อยที่สุดประเทศหนึ่งของใครหลายๆคน รอบนี้ก็เกิดจากอารมณ์ฮึกเหิมเวลาย้อนกลับไปดูรูปเก่าๆที่ไปเที่ยวถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิมาเมื่อปี 2019 (ดูโพสเก่าได้ตรงนี้รูปสวยๆเยอะมาก) เห็นแล้วมันอดใจไม่ไหวเลยวางแผนจองตั๋วแบบหน้ามืดมาก


รอบนี้โดนไป 14 วัน 13 คืน ครอบคลุมหลายพื้นที่จากโตเกียวไปจนถึงทะเลสาบคาวากูจิ แบ่งเป็น 3 ตอนครึ่งเพื่อจำกัดความยาวเล็กน้อย ฝากติดตามตอนอื่นๆด้วยนะครับ กดลิงค์ได้เลยครับ


ส่วนตอนนี้ตอนแรกเราอยู่กันที่ ฟูจิคาวากูจิโกะ และ ชิซูโอกะกันทั้งหมด 7 วัน 6 คืน และที่เที่ยวที่แนะนำมีตามนี้


การเดินทางส่วนใหญ่ก็จะใช้ขับรถเพื่อประหยัดเวลาและเซฟขาไว้เดินในโตเกียวที่ต้องมีวันละสองหมื่น เปิดหัวไว้ว่าเป็นทริปฝึกจิตใจให้ปล่อยวางเพราะว่าไปเที่ยวฟูจิครั้งใดเป็นได้แค่แขกรับเชิญ ผ่าม! ไปครั้งใดก็ต้องมีวันที่สมหวังผิดหวัง เวลาเรามองฟูจิไม่เห็นมีหลายสาเหตุ


  • ด้วยความสูง 3,776 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลยอดฟูจิสูงทะลุเมฆหลายประเภทที่อยู่ระดับต่ำกว่ายอด

  • หิมะบนยอดเขาระเหยเกิดเป็นเมฆเมื่อไออุ่นของแดดเผาหิมะบนยอด

  • ฟูจิดูจาก 5 ทะเลสาบดูใหญ่แต่จริงๆระยะทางระหว่างเรากับเฮียเขาก็ไกลพอสมควรทำให้มีชั้นบรรยากาศมาคั่นกลางระหว่างเราได้เยอะ


พอรู้แบบนี้แล้วก็เป็นการดีกว่าที่จะทำใจเผื่อไว้ว่าเฮียเค้าคงไม่ออกมาให้เราได้เห็นทุกเช้าทุกเย็น แต่ใครจะรู้ว่ามาจริงแล้วเฮียเค้าเล่นเราจุกกว่าที่คิด ปีนี้ผลจากโลกร้อนมีมากขึ้นทำให้อากาศหนาวมาช้ากว่าเดิมทำให้สภาพอากาศเป็นฝนปลายฤดูทำให้วิสัยทัศน์ไม่ดี อากาศอุ่นมากจนในโลกโซเชียลดราม่ามากมายเพราะหิมะบนยอดโผล่มาช้ากว่าปีอื่นๆ


 

Lake Kawaguchi Maple Corridor อุโมงค์เมเปิ้ล

ขึ้นเครื่องเที่ยงคืนแล้วมาถึงสนามบินนาริตะตอนเช้า แล้วต้องไปรับรถเช่า สำหรับใครที่ไม่เคยเช่ารถที่นี่อาจงงได้ว่ารับรถยังไงหว่า คือป้ายบอกทางอะไรที่นี่จัดว่าแย่พอสมควร วิธีไปคือต้องไปที่เคาน์เตอร์ของบริษัทก่อนแล้วรับบัตรขึ้นรถ shuttle เพื่อไปศูนย์รับรถ กว่าจะได้รถก็เกือบสิบโมงแล้วแวะกินข้าวและมุ่งหน้าสู่ Fujikawaguchiko ขับรถสามชั่วโมงถึง


เช็คอินแล้วฟ้ามันครึ้มๆมากเลยคิดว่าเย็นนี้แผนถ่ายรูปกับฟูจิพับไว้ก่อน ไม่ย่อท้อแล้วไปเดินดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ Lake Kawaguchi Maple Corridor ที่จอดใกล้ๆจะเก็บเงินหมดถ้าอยากประหยัดแนะนำให้จอดที่จอดข้าง 7-Eleven Kawaguchiko Museum-dori จอดฟรีที่เยอะแต่ต้องเดินประมาณ 10 นาที


ถนนริมทะเลสาบมีต้นเมเปิ้ลต้นแปะก๊วยเรียงสวยมาก ตอนเย็นจะมีเปิดไฟใส่ต้นไม้ ไฟก็จะส้มๆทำให้ต้นไหนยังติดเขียวๆยังไม่เปลี่ยนสีก็ดูส้มๆเหลืองๆไปด้วย ลุงคนดูแลหันมาถามไอหนูเอ็งจะเอาใบไม้สีอะไรเดี๋ยวลุงปรับไฟให้ ล้อเล่นๆ


ตลอดทางจะมีร้านค้าขายขนมขายข้าวตลอดด้วย เดินมาถึงแล้วจะเห็นคนเป็นล้าน ห้าแสนคือคนไทย ทางเดินก็ไม่ยาวมากครับได้เห็นใบไม้ที่ไม่ใช่สีเขียวนี่มันแปลกตามากๆจริงแล้วไฟตามต้นไม้ก็ทำให้ดูสวยงามบรรยากาศดีอีกด้วย


มาเที่ยวช่วงนี้ช่วงวันจะสั้นพอสมควรเลยได้นอนไวมากๆ แต่ยังติดใจสงสัยว่าหมู่ใบไม้แดงส้มเหลืองนี้เค้าจะสวยกว่านี้มั้ยเวลากลางวัน เช้าวันถัดไปเลยวนกลับมาอีก ถ้าให้สารภาพคือไปรอดูฟูจิแล้วเฮียไม่ออกมาเลยหาไรทำ 555


แต่เค้าก็สวยจริงๆนะช่วงกลางวันแดดออกส่องใบไม้ระยิบระยับ ดีใจจังที่ได้มาเห็น เพราะในอดีตผมเคยมาตามดูแล้วแต่ตอนนั้นเขียวอื๋อเลย อีกข้อดีในการมาตอนเช้าคือคนน้อยกว่าตอนเย็นเยอะ


Tenka Chaya ร้านชาบนเขาติดจุดชมวิวฟูจิ

เช้านี้ก่อนจะกลับมาดูอุโมงค์ต้นไม้เราก็ได้พยายามขับรถขึ้นเขาไปจุดชมวิวดูฟูจิด้วยนะ แต่ว่าไม่มีรูปมาให้ดูเพราะเฮียฟูจิเค้าเบี้ยวเรา แต่ถ้าออกมาตรงนี้จะสวยมากเลยในฤดูใบไม้ร่วง ใครมีบุญไปเอารูปมาให้ดูหน่อยน้า https://maps.app.goo.gl/YHh5oHqMuMeMMrqU9 ถึงฟูจิไม่มาที่ตรงนี้ก็ยังสวยมากอยู่ดี ยิ่งเช้านี้หมอกลงดูลึกลับ มีใบไม้แดงตามทางเดินเขา มีร้านชาสุดคลาสสิก มีอุโมงค์ที่มียายแก่เทอร์โบสิงอยู่รอขโมยกล้วย ว่าแต่ผมสงสัยมากว่าทำไมรอบนี้เค้าเอารถเช่าให้เราสีสันฉูดฉาดขนาดนี้


Oishi Park + Momiji Tunnel สวนโออิชิ กับ อุโมงค์เมเปิ้ลทะลุฟูจิ

ขับรถลงเขามาแล้วแวะไปดูอุโมงค์เมเปิ้ลมาแล้ว เลยไปต่อที่ Oishi Park ต่อเลยเพราะฟูจิโผล่มาแล้ว เล่นบทตบจูบกันอยู่ เดี๋ยวเข้าเดี๋ยวออก ภาพนี้เหมือนเมฆพันภูเขาไว้เลย ฟูจิช่วงนี้มีผมหน้าม้าเต่อๆด้วย


ในระหว่างนี้ฟูจิก็เข้าๆออกๆอยู่เป็นระยะๆ เลยรีบไปหาถ่ายรูปกันก่อนเฮียแกจะหายเข้าไปในเมฆอีก เลยจาก Oishi Park มาจะมีที่จอดใกล้ๆ Momiji Tunnel อุโมงค์เมเปิ้ลอีกที่เห็นฟูจิทะลุรูใบไม้ออกมา ตรงนี้เดินกันระวังรถด้วยเพราะอยู่ติดถนนเลย ใบไม้แดงเยอะมาก



Fujiyama Twin Terrace จุดชมวิวฟูจิที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง

พอบ่ายๆดูเมฆมาเยอะอีกแล้วแต่มันถึงจุดที่ต้องวัดใจแล้วเพราะบนฟ้ายังมีรูเมฆเปิดอยู่บ้าง หวังว่าพอตอนเย็นลมจะพัดเมฆไปหมดให้เปิดให้เราได้เจอกับเขาคนนั้น ฟูจิซัง เย็นนี้ก็ชั่งใจอยู่ว่าจะไปมุมไหนดีระหว่างมุมเมื่อเช้าที่พลาดหรือมุมใหม่ที่เทพกว่าแต่เสียเงินขึ้น ถ้าพลาดคือเสียเงินฟรี แต่ใจเรามันได้ ไปที่ Fujiyama Twin Terrace กันเลย


ที่ตรงนี้สามารถเข้าได้ 24 ชั่วโมงแต่ว่ารถบัสขึ้นลงเขาจะให้บริการตามเวลาด้านล่าง จะเห็นว่ารถขึ้นรอบแรกจะไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้นกับขาลงรอบสุดท้ายจะไม่ทันพระอาทิตย์ตก เพราะฉะนั้นใครจะอยู่จนพระอาทิตย์ตกจะต้องเดินลงเองมืดๆแต่ถนนราดยางดีเลย


สำหรับคนที่ขับรถไปให้เอารถไปจอดที่นี่ https://maps.app.goo.gl/7Mr5HxPo1VoNKsMQ7 แล้วก็ทำการซื้อบัตรขึ้นรถบัสคนละ 1,800 เยน เด็กครึ่งราคา หรือใครไม่อยากจ่ายก็สามารถเดินขึ้นได้เป็นระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตรแบบไม่มีทางราบเลย

fujiyama twin terrace

รถบัสจะไปส่งเราบนเขา ตรงป้ายรถมีห้องน้ำด้วย จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดต่ออีกประมาณ 5 นาที ถ้ามากับดวงก็จะได้เห็นสิ่งนี้ ว้าวมากกกก

fujiyama twin terrace วิวฟูจิ คาวากูจิโกะ

บนยอดจะมีจุดชมวิวฟูจิสองจุดด้วยกันแต่ไม่ต่างกันเท่าไหร่ก็เลือกกันได้เลยว่าชอบอันไหนเพราะอยู่ใกล้กันมาก โชคดีจริงๆที่ตัดสินใจมาแล้วฟูจิโผล่ออกมาระหว่างทางมาพอดี ฟินสุดๆ น้ำตาจะไหล พอฟ้าเริ่มมืดแล้วไฟเมืองข้างล่างก็เริ่มสว่าง วันนี้ฟูจิให้เราได้ฟินตอนเย็นจากที่ทำร้ายเราเมื่อเช้า ทำให้เราเป็นจำเลยรักของฟูจิ


ริมทะเลสาบคาวากูจิ

คืนก่อนเดินลงเขาทำเอาขาปวดพอสมควรแต่มีความสุขมากที่ได้เห็นเฮียฟูจิเค้าเต็มๆ ด้วยความที่มืดเร็วนอนเร็วเลยตื่นกันเองแต่เช้ามืด ถ้าทำงานขยันแบบนี้ป่านนี้คงได้เป็น CEO แล้ว


ลองออกมาดูสภาพด้านนอกขับรถวนดูว่าจะเห็นฟูจิมั้ยเช้านี้เพราะเมฆดูเยอะมาก วนไปแถวทะเลสาบแล้วเห็นโผล่ออกมาเล็กๆเลยรีบขับรถไปที่ริมทะเลสาบกัน จอดรถตรงนี้แล้วเดินลงตลิ่งไปจะมีต้นเมเปิ้ลอยู่ ไปยืนปั้นกันได้เลย https://maps.app.goo.gl/cmBRnEUJAWFb9PHF9


คือจะออกก็ออกมาครึ่งๆนะครับคุณพี่ เมฆติดยอดฟูจิเป็นภาพที่เห็นได้ด้วยความที่ยอดสูงเหลือเกิน ส่วนภาพฟูจิล้อมด้วยใบไม้แบบนี้ยอมรับว่าไม่ถนัดและปวดเข่ามากเพราะต้องย่อๆยืนๆหารูที่เหมาะสมให้ฟูจิโผล่ออกมา สุดท้ายได้มาแบบไม่ตั้งใจเพราะเรือใครก็ไม่รู้โดนน้ำพัดเข้าเฟรมมาแบบพอดิบพอดี ฟ้าส่งมาให้หรือนี่


Kitaguchi Hongu Fuji Sengen Shrine ศาลเจ้าฟูจิเซ็นเง็น

วัดเก่าแก่ในป่าสนที่เคยเป็นที่สักการะภูเขาไฟฟูจิ สวดไม่ให้ฟูจิปะทุขึ้นและยังเป็นจุดเริ่มปีนฟูจิในอดีตอีกด้วย ทุกวันนี้เป็นแลนด์มาร์คสำคัญโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ทำให้บริเวณวัดยิ่งสวยเข้าไปอีก


ทางเดินเข้าวัดจะเป็นถนนเรียงด้วยตะเกียงหินและต้นสนขนาดยักษ์สูงลิ่ว ยิ่งใหญ่มาก ธรรมชาติสุดๆ


ด้านหน้าวัดสนใหญ่ด้านในวัดต้นแปะก๊วยใบไม้เหลือง ต้นใหญ่สูงอลังการมาก ผมพึ่งรู้ว่าคนที่เค้ามาเที่ยวช่วงนี้กันเค้าเล่นเอาใบไม้บนพื้นมาโปรยเล่นกันด้วย สุดยอดความคิดสร้างสรรค์


ต้นไม้และสวนในวัดสวยแบบกินใจมาก กิ่งไม้ที่ดัดอย่างสวยงาม การดูแลต้นไม้ต้องยกให้คนญี่ปุ่นจริงๆ การดัดกิ่งไม้ต่างๆแบบบอนไซใช้เวลาชั่วอายุคนหนึ่งคน ความอดทนต้องเป็นเลิศ


ตัวอาคารก็สวยงามมากเช่นกัน เป็นวัดที่ได้รับการดูแลอย่างดี ต้นสนหน้าอาคารหลักต้นใหญ่มาก บางส่วนดูเก่าและขลังมาก ความที่วัดญี่ปุ่นใช้วัสดุธรรมชาติมันทำให้ทุกอย่างดูขลังดูเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติมันทำให้สวยมากจริงๆ


วัดนี้วัดเดียวใช้เวลานานมากเพราะสุดทุกมุมเลย หันไปทางไหนสีสันสวยงาม ต้นไม้ฟอร์มสวยงามโอบรับกับอาคารศาลเจ้า ล้อมกรอบถ่ายรูปได้เพียบ ใครมาช่วงฤดูใบไม้ร่วงไม่ควรพลาดจริงๆ


และที่นี่เป็นที่สุดท้ายที่ Fujikawaguchiko ก่อนเราจะขับรถออกไปชิซูโอกะกันแล้ว มีหลายมุมถ่ายรูปเลยที่วางแผนจะไปแต่อากาศไม่เป็นใจ เราพลาดไปรวมๆ 6 จุดด้วยกันแต่ว่าเราก็ได้ภาพระดับเทพที่บนยอดเขามา มองโลกในแง่ดีฝุดๆ


 

Shizuoka - Satta Pass

เย็นวานนี้เข้าโรงแรมเช็คอิน ฝนตกเล็กๆเลยรู้ละว่าไม่ต้องไปตามดูฟูจิในมุมที่เลือกไว้ จบด้วยการหาอะไรอร่อยๆกินก่อนกลับโรงแรมมาพักผ่อน เช้านี้ดูสภาพอากาศแล้วเหมือนมีลุ้นเลยรีบแต่งตัวแล้วออกไปจุดชมวิวฟูจิที่ Satta Pass กันเลย จุดที่จะไปคือตามลิงค์นี้เลย https://maps.app.goo.gl/Wdk85qN5ZGHD3x9E8


สำหรับใครที่ต้องการตามรอยไปมุมนี้บอกก่อนว่าถนนที่ขับไปมันโหดมันน่ากลัว เพราะเป็นทางริมเขาริมผาและถนนแคบมาก กว้างกว่าช่วงรถนิดเดียวให้ชาวสวนแถวนี้เดินทางขึ้นลงเขา ใครขับไม่แข็งแนะนำให้ไปที่ใกล้ๆกันที่ถนนไม่แย่เท่าตรงนี้แทน https://maps.app.goo.gl/fbnzEukfA6Cu9zXu9


ส่วนใครมั่นใจก็ขอให้ขับไปอย่างระมัดระวัง แล้วคุณจะได้รางวัลด้วยมุมนี้ของฟูจิ สวยมากเลย ขนาดเมฆบังเยอะแยะมียอดฟูจิโผล่มานิดหน่อยก็ยังสวยมาก วันนี้ฟูจิโผล่มาให้ถ่ายรูปแค่ไม่เกิน 30 วินาทีโชคดีมากที่กดชัตเตอร์มาทัน

ฟูจิยามเช้า satta pass

Shiraito Falls น้ำตกชิไรโตะ

พอเมฆมาบังแล้วฟูจิก็ไม่โผล่มาอีกเลย จนเราเก็บกล้องเก็บขาตั้งขึ้นรถ 555 จะแกล้งกันไปถึงไหน แต่แสงก็เริ่มแข็งแล้วเลยลงเขากันดีกว่า พอสว่างแล้วเห็นสภาพทางแล้วขนลุกยิ่งกว่าเก่า หลังจากนี้ก็ไปเช็คเอาท์อะไรๆแล้วก็ไปเที่ยวน้ำตก Shiraito Falls จริงๆเคยไปที่นี่มาแล้วแต่ว่าอยากไปเห็นตอนใบไม้เปลี่ยนสีด้วย จริงๆมุมนี้ก็จะเห็นฟูจิด้วยแต่ตอนนี้จะเห็นว่าเค้าโผล่มานิดๆ โผล่มาแบบแอบมองเธออยู่นะจ๊ะ


หลังจากนั้นเราพากันไปนั่งจิบชาและใช้เวลาพักผ่อนเงียบๆเพราะว่าแผนสำหรับวันนี้ทั้งหมดมันหมุนรอบฟูจิและวันนี้เฮียเค้าลางาน ซดน้ำชาพร้อมน้ำตา 555 จะว่าไปชิซูโอกะเป็นพื้นที่ปลูกชาชื่อดังและมีชาหลายรูปแบบหลายรสชาติให้ได้ลอง ชานี้จำชื่อไม่ได้แล้วแต่ว่ามีรสชาติแปลกใหม่มาก หน้าตาเหมือนต้นหอมอบแห้งเวลากินมาม่า


วันนี้ทั้งวันมีที่เที่ยวแค่นี้เลย 555 แล้วพากันไปเข้าโรงแรมที่ Shimizu แวะตลาดปลา Kashi-no-Ichi Market ซื้อปลาลดราคาตอนเย็นมาทำข้าวโปะปลาดิบกินกันเองในห้องโรงแรมก็มีความสุขแล้ว ฉันไม่ง้อแกหรอกฟูจิ ที่มาพักที่ Shimizu เป็นเพราะเราตั้งใจจะไปถ่ายรูปบนเขาใกล้ๆกัน


ตามพยากรณ์อากาศวันนี้ฝนตกทั้งวัน แผนที่วางไว้เป็นต้องพับทั้งหมด แต่ไหนๆก็มาแล้วก็อย่าไปซึม หาที่เที่ยวใกล้ๆ หาร้านกาแฟนั่งสบายๆบ้าง เช้านี้ไม่รีบร้อนค่อยๆตื่นแล้วไปเดินเล่นริมแม่น้ำในเมือง Shimizu เป็นเมืองเล็กๆเงียบๆที่ดูแล้วนักท่องเที่ยวไม่น่าจะค่อยมากันแต่บรรยากาศวันนี้ดีมากมีเมฆติดเนินเขาครึ้มๆเหมือนฝนกำลังจะตก เดินเช้าไปหน่อยร้านอะไรก็ยังไม่เปิด


Miho no Matsubara ป่าสนริมทะเลที่แหลมมิโฮะ

พอหาข้าวกินไม่ได้เลยตัดสินใจออกไปเที่ยวกันริมทะเลที่ป่าสนริมหาดที่แหลมมิโฮะกัน อย่าไปซึม จอดรถฟรีที่ Miho Shirube เสร็จฝนก็ตกพอดี เดินออกมาจะเห็นทางเดินไม้ที่มีต้นสนขนาบสองข้าง ทางพุ่งตรงไปที่ศาลเจ้า Miho Shrine


ความเชื่อพื้นเมืองว่าเทพสององค์ของศาลเจ้านี้ว่ากันว่าเป็นสามีภรรยากัน เชื่อกันว่าศาลเจ้านี้ให้โชคกับคู่รักหรือให้โชคสำหรับคนกำลังหาคู่ได้เหมือนกัน พอดีฝนตกมากเลยตัดสินใจเอาโทรศัพท์ถ่ายเอานิดหน่อยละกัน ต้นสนตรงนี้ต้นใหญ่มากเรียงเป็นแถบสวยมากครับ ถ้าฝนไม่ตกคงจะสวยกว่านี้อีก


Nihondaira นิฮนไดระ ศูนย์กระจายสัญญาณวิทยุโทรทัศน์บนเขา

เป็นอีกที่ที่วางแผนจะมาถ่ายภาพฟูจิยามอาทิตย์อัสดงแต่ดูทรงวันนี้จะมีแต่ท่าเรือข้างล่าง แวะมาดูที่ทางไว้ก่อน อนาคตจะกลับมาแก้แค้น ตรงนี้ถ้าฟ้าเปิดมันจะสวยมากๆเลยนะครับดูจากรูปคนอื่นแล้ว แต่ของเรามโนเอาเองไปก่อน