top of page
  • รูปภาพนักเขียนOpp

เที่ยวฮ่องกง 4 วันแบบขาลาก เดินตามหามุม Cityscape ของเมืองแห่งตึกระฟ้า

อัปเดตเมื่อ 24 เม.ย.


รีวิวเที่ยวฮ่องกง hong kong

เดือนที่เดินทาง - เมษายน 2024


ไม่รู้อะไรดลใจให้อยากไปฮ่องกงครับ สงสัยเป็นเพราะหลังๆเห็นคนไปเยอะแล้วก็สงสัยว่าเค้าไปทำไรกันที่ฮ่องกงน้า คือเด็กๆก็เคยไปมาสองครั้งแล้วและตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกว่าเค้ามีอะไรสนุกๆให้ทำเลยนินา แต่พอได้ศึกษาข้อมูลมากขึ้นในฐานะผู้ใหญ่ทำงานหาเงินเองได้ก็เลยรู้ว่าเอร้ย! ที่นี่มันขุมทรัพย์คนชอบถ่ายรูป cityscape แท้ๆ


ทีนี้ก็เคยได้ยินคำร่ำลือมาว่าสภาพอากาศฮ่องกงมันแปรปวนมากบวกกับวันลาที่จำกัดเลยต้องพยายามเลือกว่าไปเดือนไหนจะเซฟสุดได้รูปแน่ๆแล้วไม่ใช้วันลาเยอะเกินไป เลยสรุปว่าจะไปเดือนเมษายนนี่แหละเพราะดูจากสถิติสภาพอากาศปีที่ผ่านๆมามีข้อดีหลายอย่าง

  • มีวันหยุดสงกรานต์

  • อากาศไม่ร้อนเกิ๊น

  • มีโอกาสได้ฟ้าโปร่งและเมฆบ้าง หวังจะมีเมฆส้มๆตอนพระอาทิตย์ตกและขึ้น



โหมดการเดินทางที่ใช้เป็นหลัก

  • รถไฟ Airport Express ซื้อรอบเดียว 115 HKD

  • รถไฟฟ้า MTR ในเมือง รอบนี้ไปไม่ได้ซื้อบัตร Octopus เลยครับเพราะว่าใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตของ visa ได้เลย

  • รถรางบนเกาะฮ่องกง ใช้บัตร visa

  • รถเมล์เล็กใหญ่ ใช้บัตร visa

  • เรือข้ามฟาก Star Ferry ใช้บัตร visa

  • รถเมล์ A จากในเมืองไปสนามบินได้ ราคาไม่เกิน 50 HKD ถูกดี

  • แท๊กซี่เวลาขี้เกียจเดินตามระยะทางและเวลา

  • The Peak Tram รถรางขึ้นเขา มีแพกเกจหลายราคา

  • เดินวันละเกินสองหมื่นก้าว ขาเปื่อย!


เที่ยวไหนบ้าง


เที่ยวฮ่องกงวันแรก

ผมไปฮ่องกงล่าสุดนี่ก็เกือบ 10 ปีแล้วนะรอบนี้มาถึงแล้วรู้สึกได้เลยว่าสถานที่การจัดการของเค้าดีขึ้นมากแล้วพนักงาน ต.ม. ก็ยิ้มแย้มต้อนรับกว่าสมัยก่อนมาก รอกระเป๋าผ่าน ต.ม. ก็รวดเร็วมาก นักท่องเที่ยวมีวิธีเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองเยอะมาก มีมากนั่งแท๊กซี่ มีปานกลางนั่ง Airport Express หรือประหยัดนั่งรถไฟใต้ดินแบบทั่วไป หรือจะนั่งรถบัสประเภท A ก็ได้ รายละเอียดก็ดูได้ที่นี่เลยจ้า

Sheung Wan (ชึงหว่าน) - Central

เช็คอินแล้วก็รีบเลยครับ หิวมาก ระหว่างเดินไปกินข้าวร้าน Yung Kee ร้านดังด้านห่านย่างก็ตื่นเต้นมากเลยไม่ได้มาฮ่องกงนาน มองไปทางไหนก็เห็นมุมถ่ายรูปตึกแปลกๆร้านค้าแน่นๆแออัดเยอะเลย


ที่แรกเลยเดินผ่านด้านหน้า Western Market เป็นต้นสายของรถราง Hong Kong Tram เลยครับมี photo ops ให้ได้เล่นเยอะเลย


ร้านอาหารอยู่บนถนน Wellington Street ใกล้ๆ Lan Kwai Fong ที่มีอะไรให้ได้มองหามุมถ่ายรูปได้รายทางเช่นกัน


Tai Kwun

อดีตเคยเป็นสถานีตำรวจกลางและมีอาคารหลายหลังทั้งสำนักงาน คลังแสง ห้องขัง เป็นสถานที่เที่ยวที่คนมาเยอะกันพอสมควรอยู่บนถนน Hollywood Road มีทั้งพิพิธภัณฑ์ โชว์งานศิลปะ และคาเฟ่ร้านอาหารด้วย


แล้วอีกวันหลังจากไปถ่ายรูปตั้งแต่เช้ามืดมาเลยมานั่งหลับใต้ร่มไม้แถวนี้รอร้านอาหารเปิด อากาศเย็นสบายดี อาหารร้าน Café Claudel หน้าตาดีอร่อยด้วย รูปนี้ถ่ายโดย Xiaomi 13 Ultra งานดีมากเลยเป็นแค่มือถือแท้ๆ ต่อไปคงได้ทิ้งกล้องไว้บ้านแล้วล่ะ


Hollywood Road - Man Mo Temple

Tai Kwun เค้าก็อยู่บนถนน Hollywood นี่แหละ เราก็เดินต่อไปเลย จะไปเที่ยววัดบ้าง ระหว่างทางก็ไม่พลาดที่จะ snap ภาพมาบ้างเวลาเจอมุมเท่ๆตามถนน ระหว่างทางสามารถค้นพบภาพวาดฝาผนังได้แทบทุกซอย


เดินไปจนเจอวัดหมั่นโหมว (Man Mo Temple) วัดดังเรื่องอะไรผมก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามาตอนบ่าย 3 จะเห็นลำแสงพุ่งผ่านธูปลงมา ยอมดมควันธูปอยู่นานก็รอคนน้อยๆหน่อยแล้วก็กดรูปมาเลย


IFC ONE & IFC TWO Footbridge - Central Market

มาวันแรกก็เดินขาลากซะแล้ว มาถึงช่วงสุดท้ายของวันตามสูตรเดิมคือไปยืนรอพระอาทิตย์ตกกันเป็นชั่วโมงนั่นเอง ตอนแรกก็กะว่าไปเร็วหน่อยเพราะกลัวมีคนมาแย่งที่ถ่ายรูป แต่ปรากฎว่าไปถึงแล้วยืนเหงาเลย มุมแรกอยู่บนสะพานใกล้ๆห้าง IFC หาง่ายมากครับ คิดถึงมากกับการถ่ายรูปเป็นสิบๆใบแล้วเอามาซ้อนเลเยอร์กันเพื่อประกอบไฟรถที่ลากเป็นเส้น มันมือมากจากไฟถนนแน่นเอี้ยด

ifc hong kong

หลังจากจุดนี้เดินตามทางเดินลอยฟ้าไปอีกไม่ไกลก็จะเจอกับ Des Voeux Footbridge มองลงไปเล่นกับรถรางได้สนุกๆ

Des Voeux Footbridge

สุดท้ายแล้วคืนนี้เพราะหิวข้าว ข้างๆจุดก่อนหน้าคือ Central Market เหมือนกับเคยเป็นตลาดสดสมัยก่อนแต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นห้างมีร้านอาหาร ร้านน้ำขนม ของที่ระลึก งานศิลปะไปแล้ว ตอนกลางวันวัยรุ่นออกมาถ่ายรูปเล่นกันเยอะมากเหมือนกันนะ แต่เค้ามาถ่ายรูปเพื่อนรูปแฟนกัน ผมขอคงคอนเซ็ป No People Travel Photo (จริงๆเพราะหามุมเวลาถ่ายคนไม่เจอ)

central market


เที่ยวฮ่องกงวันที่สอง

Stubbs Road Lookout

จุดชมวิวบนเขาใกล้ๆกับย่าน Wan Chai ซึ่งไปแต่เช้าตรู่เลยออกจากโรงแรมตอนตีห้า ทีนี้พอมันเช้ามากผมก็กลัวหาแท๊กซี่ไม่ได้เลยยอมจองล่วงหน้าผ่านแอพ Uber ซึ่งค่ารถตั้ง 159 HKD แพงพอสมควรแต่ว่ากลัวไม่ได้รูปอ่ะ ใครอยากไปก็กดสั่ง Uber ให้ไปส่งที่โลเคชั่นตามชื่อได้เลยล่ะครับ

  • มาช่วงนี้พระอาทิตย์ขึ้น 6 โมงเช้า

  • แนะนำให้มาถึงประมาณ 30 นาทีก่อนพระอาทิตย์ขึ้น


เมื่อวานตอนเย็นก็เห็นฟ้าเปิดดีๆอยู่เลยนะ แต่ทำไมพอมาตอนเช้ามันครึ้มนัก แต่ก็ยังดีที่ได้แสงของเมืองสะท้อนบนเมฆที่ลอยต่ำเป็นสีส้มๆอ่อนๆบ้าง

stubbs road lookout

hong kong bus 15

ส่วนขากลับสามารถรอรถบัสสาย 15 คันแรกได้จากป้ายรถเมล์ใกล้ๆเพื่อลงจากเขาหรือจะนั่งไปจน Central เลยก็ได้นะ หรือถ้าอยากสบายๆก็โบกแท๊กซี่จากตรงนี้ได้เหมือนกัน ถึงจะอยู่บนเขาแต่มีรถผ่านไปผ่านมาเป็นระยะๆ














hong kong disneyland

Hong Kong Disneyland

มีรูปให้ดูของวันนี้แค่นี้เองครับเพราะหลังจากนี้จะไปเที่ยว Disneyland ตามแบบฉบับคนอายุน้อยๆบ้าง ว่าไปแล้ว Disneyland ที่ฮ่องกงนี่ข้อดีคือคนไม่แออัดเหมือนที่เคยไปที่อื่นๆนะครับ เครื่องเล่นก็รอไม่นานมากไม่เกิน 30 นาทีซักอันเลย พึ่งเคยมาดิสนีย์แลนด์ที่ฮ่องกงเป็นครั้งแรกด้วย ปราสาทเค้าสวยงามกว่าที่เคยไปที่แคลิฟอร์เนียอีก ยอดแหลมเชียว


แล้วตอนนี้เค้าพึ่งเปิดโซน Frozen ใหม่ด้วยใครชอบหรือมีลูกหลานชอบร้องเพลง Let It Go เอาไว้พิจารณาได้เลยครับ รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บเค้าเลย






ไม่เล่าอะไรเยอะละกันครับ บอกอย่างเดียวว่าห้ามพลาดเครื่องเล่น Hyperspace Mountain ถ้าคุณเป็นแฟน Star Wars สนุกมากเลยคอนเฟิร์ม ถ้าเล่าหมดมันก็เหมือนสปอยล์หนัง แต่ว่าจะมาก็เตรียมตัวเดินขาลากกันไว้ด้วยนะครับ



เที่ยวฮ่องกงวันที่สาม

Lugard Road Lookout

เป็นอีกวันที่ออกจากโรงแรมตั้งแต่ตีห้าและเสียค่าแท๊กซี่แพงๆให้กับ Uber แต่ว่ามุมนี้ถ้าพลาดแล้วเสียเที่ยวจริงๆนะ คือเวลาเสิชฮ่องกงบน Google แล้วก็มั่นใจว่าต้องเห็นรูปจากมุมนี้ทุกครั้งไป


การเดินทางไปและขั้นตอนการถ่ายภาพ

  1. ให้แท๊กซี่ไปส่งเราที่ The Peak Galleria

  2. เดินออกจากที่จอดรถไปเลี้ยวขวาและตาม Google Maps ไปที่ Lugard Road Lookout ได้เลย

  3. มาช่วงนี้พระอาทิตย์ขึ้น 6 โมงเช้า

  4. แนะนำให้มาถึงประมาณ 30 นาทีก่อนพระอาทิตย์ขึ้น

วิธีกลับลงจากเขา

  1. The Peak Tram ราคาค่อนข้างสูงและเปิดสาย 7.30น. ถ่ายรูปเสร็จตั้งแต่หกโมงนิดๆก็ต้องนั่งแกร่วรอเพราะร้านรวงยังไม่เปิดเลย ดูราคาตามลิงค์นี้ครับ นั่งขาเดียวราคาเริ่มต้น 62 HKD

  2. นั่งรถบัสสาย 1 ลงจากเขาโดยรถรอบแรกเริ่ม 6.45น. ราคาก็ 11.80 HKD เอง สุดสายที่สถานี MTR​ Central เลย ป้ายรถเมล์จะอยู่ตรงที่แท๊กซี่พามาส่งตอนเช้าที่ The Peak Galleria เลยครับ


ทีนี้ใครมาคนเดียวก็ทำจิตให้มั่นและอย่าหวั่นไหวกับเสียงนู่นนี่เพราะถึงแม้ทางเค้ามีแสงส่องสว่างตลอดแต่มันจะมีบางจุดมืดๆ เงียบสงัดแบบเวลาที่เดินเหยียบใบไม้เสียงกอบแกบของใบไม้ที่ร่วงจากเท้าเรามันทำเสียงให้รู้สึกเหมือนมีคนเดินตามหลังมาเลย แล้วกระเป๋าที่สะพายอยู่พอมันถูกับหลังก็ส่งเสียงเหมือนกับมีใครอยู่ข้างหลัง เอาเป็นว่าพอรู้ที่มาของเสียงแล้วก็น่าจะทำให้หายกลัวได้บ้างนะครับ


ทางเดินก็เรียบๆนะครับไม่เหนื่อยเลย เดินใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็จะถึงที่ของเราแล้ว วันที่ผมไปตอนไปถึงมีคนฮ่องกงยืนอยู่แล้ว 3 คนแล้วเค้าได้จุดที่ดีที่สุดไปแล้ว ผมเลยได้ภาพแบบกิ่งไม้โด่เด่นิดหน่อย ขนาดมาถึงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น 30 นาทียังมาช้ากว่าเขาอีกแน่ะ

hong kong skyline

เป็นวิวที่โคตรสวยเลยนะ จริงๆก็แอบหวังให้มีฟ้าระเบิดกับเค้าบ้างแต่ก็ได้เหมือนกับเช้าวันก่อนเลยคือหมอกบางๆลงตรงเมืองแล้วเมฆปกคลุมทั่วฟ้า แต่ได้สีส้มๆของพระอาทิตย์ขึ้นมาก็ยังดีน่ะ ส่วนขั้นตอนการถ่ายก็ต้องซ้อนเลเยอร์ใน Photoshop นิดหน่อยเพื่อให้ได้ทั้งสีบนฟ้าและไฟตึกที่ยังสว่างอยู่


ถ่ายรูปเสร็จแล้วใครจะลงเลยก็ได้หรืออยากเดินเที่ยวบนเขาก่อนก็ได้เหมือนกันแต่มันไม่ค่อยมีอะไรนะครับเช้าตรู่ขนาดนี้ วันนี้เลยรอลงรถรางให้อินกับการมาเที่ยวหน่อยแต่จะบอกว่ามันลำบากหลายอย่าง อย่างแรกรอรถเปิดนาน อย่างสองคือลงไปแล้วไม่ใกล้สถานี MTR แนะนำให้เลือกลงรถบัสสาย 1 แทนทั้งถูกและสะดวก

the peak tram

มาถึงจุดนี้ก็เหนื่อยพอสมควรเพราะตื่นเช้ามาสามวันติดแล้วเด้อ หลังจากนี้เลยไปหาข้าวเช้ากินกันแล้วกลับไปหลับต่อที่โรงแรมจนบ่าย ตื่นมาแล้วก็ไปเที่ยวต่อฝั่งเกาลูน แนะนำถ้าไปแล้วให้ไปกินบะหมี่ลูกชิ้นปลา ปลาหมึกกันนะครับ Kai Kee Noodles อร่อยจริงๆ ปกติไม่เคยรีวิวอาหารแต่พออายุมากขึ้นรู้สึกอาหารฮ่องกงอร่อยขึ้นกว่าที่จำได้ ความแก่นี่มันมีหลายแง่มุมจริงๆ


พอมาถึงฝั่งเกาลูนแล้วรู้สึกคนเยอะมากเลยล่ะ คือโรงแรมอยู่ฝั่งฮ่องกงรู้สึกสงบไปเลย ตึกแถวนี้ก็แน่นเอี๊ยดยิ่งกว่าอีก ได้ภาพบรรยากาศเอกลักษณ์ฮ่องกงมาก

tsim sha tsui

hong kong kowloon

Tsim sha Tsui (จีมซาโจ๋ย)

ตอนเด็กๆก็เคยมาแล้วนะแต่ก็กลับมาอีกเพราะอายุเยอะขึ้นรู้สึกว่ามีอะไรให้ดูมากขึ้น แดดเปรี้ยงเอาเรื่อง รีบเดินรีบหนีไปห้าง


พอแดดเริ่มร่มแล้วก็ออกมาจองที่ดูพระอาทิตย์ตก เป็นครั้งแรกตั้งแต่มานี่แหละที่ได้เห็นท้องฟ้าสีส้มยามโพล้เพล้ เสร็จแล้วยืนยาวไปจนมืดรอดูไฟด้วยเลย แถวนั้นก็พอมีที่นั่งจะยืนหวงที่อะไรก็ไม่รู้ ระหว่างรอก็มีพี่ชายชาวจีนที่เดินมาสะกิดให้ช่วยถ่ายรูปประมาณสิบรอบ ทำไมพี่ไม่พาตากล้องมาเอง สุดท้ายเลยต้องบอกว่าผมยุ่งอยู่ด้วยภาษาจีนที่รู้เท่าหางอึ่ง



mongkok hong kong neon sighs

Mongkok

พอถ่ายรูปเสร็จก็ดึกแล้วหิวด้วย เย็นนี้ไปกินติ่มซำกันเป็นมื้อแรกที่ร้านดังในย่านมงก๊ก Dim Dim Sum Mong Kok คนไทยเยอะด้วยแสดงว่าอร่อยจริง 555 หลังจากอิ่มแล้วใกล้ๆนี้มีที่ให้ถ่ายรูปเก๋ๆด้วย ออกจากร้านแล้วเลี้ยวขวาก็จะเห็นเลย ได้อีกหนึ่งใบก่อนกลับโรงแรมนอน














เที่ยวฮ่องกงวันที่สี่และวันสุดท้าย

Lugard Road Lookout รอบสอง

คือเมื่อวานรู้สึกว่าทำไมฟ้าไม่เปิดเลยนะ ก็เลยตัดสินใจมาเสี่ยงโชคอีกรอบเผื่อจะดวงดี แต่ดูแล้วเหมือนเมื่อวานเป๊ะทั้งหมอกทั้งคนฮ่องกงยืนจองที่ไว้ก่อน ชีวิตวนลูป เลยตัดสินใจเก็บมุมอื่นบ้างเลยละกัน


เดินเล่นย่าน Causeway Bay

วันนี้เลยตัดสินใจนั่งรถบัสลงเขาถึงเร็วกว่าเดิมเอาขาตั้งกล้องไปเก็บโรงแรมเพราะเป้หนักไม่ไหว หลังจากนั้นก็ถึงเวลาที่รอคอยคือกินข้าวเที่ยง แนะนำอีกร้านวันนี้ที่ Causeway Bay ร้าน Under Bridge Spicy Crab


ระหว่างทางเดินแถว Causeway Bay ก็มีอะไรให้ถ่ายรูปเยอะเลย บางทีก็พลาดจังหวะบางทีก็เดินเลยมาแล้ว เป็นรสชาติของการเที่ยวฮ่องกง สำหรับใครที่ชอบของหวานแล้วชอบสนับสนุนกิจการของคนไทยเชิญไปร้าน After You Hong Kong พนักงานเค้าทักทายเป็นภาษาไทยด้วย


มาถึงจุดนี้ที่เดินวันละสองหมื่นก้าวมาทุกวัน เริ่มงอแงแล้ว ทั้งๆที่เป็นคนอยากไปนู่นไปนี่เองแท้ๆ 555 เลยกลับโรงแรมอีกแล้วพักผ่อนก่อนไปถ่ายรูปใหญ่สุดท้ายของทริปนี้


Jardine's Lookout

วันสุดท้ายแล้วเลยสู้มาก พร้อมทุกอย่างไม่ว่าฮ่องกงจะทุ่มอะไรใส่เรา Jardine's Lookout เป็นจุดชมวิวระหว่างทางเดิน trekking บนเกาะฮ่องกง วิธีไปไม่ยากครับเปิด Google Maps ไปที่ Wilson Trail แล้วเดินทางตามที่ชอบได้เลยมีให้เลือกแบบนั่งรถสาธารณะ หรือรถสาธารณะครึ่งแท๊กซี่ครึ่ง


ถ้าเลือกนั่งรถเมล์มาจากตัวเมืองจะต้องเดินจากป้ายรถเมล์ขึ้นเขามาที่จุดเริ่มต้นเส้นทางนี้ประมาณ 20 นาทีแล้วทางชันมากนะครับ ซึ่งผมคิดว่าถ้าใครอยากประหยัดแรงต้องใช้เงินเข้าแลกแล้วนั่งแท๊กซี่ตรงนั้น


มาถึงแล้วจะเห็นทางเข้าแบบนิ เดินตามป้ายไป Jardine's Lookout ได้เลย เส้นทางนี้จริงๆสามารถเดินไปยาวมากๆๆแบบที่ข้ามเขาสี่ห้าลูกกันไปเลย แต่สำหรับเราการเดินเป็นความจำเป็นเพื่อไปถ่ายรูป


ระยะเวลาที่ใช้ไปก็ไม่นานเลยครับ ประมาณ 30 - 45 นาทีเท่านั้น เตือนอย่างนึงว่าเส้นทางนั้นเป็นบันไดขึ้นซะส่วนใหญ่ เดินๆพักๆก็จะถึงเอง มองกลับไปก็จะเห็นมาเดินมาสูงอยู่

tai tam hong kong

ช่วงสุดท้ายบันไดจะรัวๆยาวๆหน่อยขอให้ตั้งมั่นเพราะมันใกล้ถึงแล้ว และพอมาถึงเราก็ได้รับรางวัลเป็นวิวนี้ ต้องสู้ถึงจะชนะ วันนี้ดูฟ้าและเมฆกำลังดีเลย พระอาทิตย์ตกต้องระเบิดระเบ้อแน่นอน!

hong kong skyline jardine's lookout

สู้ฮ่องกงแต่ฮ่องกงก็สู้กลับ นั่งกินข้าวปั้น 7-11 อยู่ก็มีเมฆแผ่นมหึมาพัดผ่านเขาเข้ามาสู่เมืองจนบางทีมองไม่เห็นตึกข้างล่างเลย สุดท้ายเราก็สู้ต่อแล้วรอจังหวะเมฆเปิดเมืองออกมาให้เห็นแล้วได้รูปนี้มา ฮ่องกงกำลังบอกว่าครั้งหน้าเอาใหม่นะไอ้น้อง มาครั้งแรกแล้วจะได้รูปไปเลยมันดูถูกพี่เกินไป

hong kong skyline jardine's lookout


เวลาสี่วันที่มีก็นับว่าได้รูปคุ้มอยู่น้อ ฮ่องกงในครั้งนี้มีภาพที่เปลี่ยนไปจากวัยเด็กที่คิดว่ามันน่าเบื่ออาหารมันไม่อร่อยมากเลย มาครั้งนี้อะไรก็ดูตื่นตาตื่นใจ ตึกสูง อาหารรสชาติถูกปาก การเดินทางที่สะดวก รถรางสวยๆ ไฟยามค่ำคืนคูลๆ ยังไม่ทันกลับบ้านก็อยากกลับมาเที่ยวใหม่แล้ว อนาคตเจอกันใหม่แน่นอน


เหมือนเคยครับ หวังว่าเพื่อนๆผู้อ่านจะได้รับความสุขและข้อมูลสำหรับไปเที่ยวด้วยตัวเอง มีอะไรสนุกๆมาเล่าให้ฟังก็ทิ้งคอมเม้นไว้ได้เหมือนกัน ไม่ขออะไรมากแค่ช่วยกดไลค์ติดตามเพจด้วยน้า ขอบคุณครับ


ดู 9 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page