STAR WARS™ Identities นิทรรศการสำหรับคนรักสตาร์วอร์ส
อัปเดตเมื่อ 15 เม.ย.

สวัสดีมิตรรักแฟนเพลง หายหน้าไปนานเพราะพิษโควิดเพจท่องเที่ยวก็เลยต้องชะงัก แต่วันนี้ขอมาเนิร์ดให้ดูเพราะที่สิงคโปร์มีนิทรรศการ STAR WARS™ Identities ซึ่งจัดมาแล้วหลายประเทศทั่วโลกและสิงคโปร์เป็นขาสุดท้ายแล้ว ด้านในมีการจัดแสดงของดั้งเดิมในการถ่ายทำหนังอย่าง พร็อพ คอสตูม คอนเซ็ปต์อาร์ท มากมาย แน่นอนว่ามีหลายคนมาดูไม่ได้เลยอยากจะนำประสบการณ์มาฝากให้ได้อย่างครบถ้วนและแม่นยำเท่าที่จะทำได้ เพราะฉะนั้นบอกไว้ก่อนเลยว่าโพสนี้ยาว!

สถานที่จัดงานคือที่ ArtScience Museum ที่ Marina Bay Sands ถึงจะเป็นวันอาทิตย์แต่คนไม่เยอะเท่าไหร่เพราะงานเค้าจำกัดคนเข้าตามช่วงเวลาป้องกันคนแน่นมากเกินไป
ตอนต่อแถวเข้างานพนักงานก็จะแจกสายคล้องข้อมือที่มีชิปติดอยู่ไว้สแกนกับเครื่องด้านในเพราะจะมีการสร้างตัวละครของเราเองจากเรื่อง Star Wars ได้ด้วย

ห้องแรกก็จะมีการแนะนำเปิดงานเล็กน้อยว่าด้านในจะไปเจออะไรกันบ้าง

โซน 1 Jar Jar Bink
ตัวละครที่เปิดตัวจากเรื่อง The Phantom Menace ชนเผ่า Gungan ที่อาศัยอยู่ใต้น้ำบนดาว Naboo เป็นตัวละครที่มีทั้งคนรักและคนชัง ตรงส่วนนี้แสดงให้เห็นว่ากว่าจะมาเป็นตัวเอเลี่ยนหน้าตาประหลาดแบบนี้ผ่านกระบวนการคิดมาแค่ไหน

ด้านล่างคือภาพวาดด้วยดินสอและดินสอสีเป็นการศึกษาใบหน้าของ Jar Jar ในแบบที่แสดงความรู้สึกต่างๆที่นักออกแบบ Iain McCaig ทำขึ้นเพื่อศึกษาและจัดว่างตำแหน่งของอวัยวะ
ส่วนโมเดลด้านล่างถูกทำขึ้นมาเพื่อช่วยนักทำ animation และ CGI ออกแบบท่าทางและใบหน้าของ Jar Jar ให้ดูตลกโปกฮา หรือจริงๆแล้วดูหลอนๆไงก็ไม่รู้
โซน 2 Cloning (โคลนนิ่ง)
***ตรงโซนนี้นิทรรศการบอกว่าเกี่ยวกับ Clone แต่ผมว่ามันแปลกๆเพราะตรงนี้มี Clone แค่คนเดียวคือ Boba Fett ที่เป็นโคลนของ Jango Fett

พอเดินมาถึงตรงนี้ทุกคนต่างกรีดร้องเพราะว่าชุดที่เห็นในตู้นี้เป็นชุดจริงๆที่ Jeremy Bulloch ใส่ถ่ายหนังภาค The Empire Strikes Back และตอนต้นของ The Return of the Jedi (และตายอย่างอนาถในไม่กี่นาที) ได้เห็นอย่างใกล้ชิดแบบนี้ก็คุ้มแล้วค่าเข้า




ยังไม่ลืมคนข้างๆคือ First Order Stormtrooper และ Stormtrooper ดั้งเดิมพร้อมหมวกสามใบ ในหนัง Star Wars เรื่องแรกชุด Stormtrooper ถูกทำขึ้นมาแค่ 50 ชุดเท่านั้นและนี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

โซน 3 Droid
คงจะรู้กันแล้วว่า Droid ในเรื่อง Star Wars นี้มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนคนทั่วไปได้ด้วย โดยคำว่า Droid นี้ George Lucas เอามาจากภาษากรีกคำว่า Android ที่แปลว่าเปรียบเสมือนคนนั่นเอง

พอมาถึงตรงนี้ก็เรียกว่ากลับบ้านได้เพราะได้มาเจอกับอาร์ทูหรือ R2-D2 ตัวจริงแล้ว ชุด R2-D2 อันนี้เป็นตัวเดียวกับที่ Kenny Baker เข้าไปนั่งบังคับข้างในในหนัง A New Hope ด้วย แต่จริงๆแล้วโมเดลอาร์ทูถูกทำขึ้นมาเยอะมากและบางตัวต้องใช้คนเข้าไปบังคับและบางตัวบังคับได้ด้วยรีโมทจ้า


ส่วนข้างอาร์ทูไม่ใช่ใครอื่น BB8 ที่ออกมาในหนังภาค Sequel 7 - 9 ที่คอยกลิ้งไปกลิ้งมา ชื่อ BB8 นี้ถูกตั้งโดย J.J. Abrams เพราะรูปร่างน้องเค้าเหมือนตัว B กับเลข 8

ข้างๆอาร์ทูเป็นเพื่อนซี้เค้าเอง C-3PO หรือ Threepio โปรโตคอล ดรอยด์ที่อนาคินประกอบขึ้นตอนยังเด็กไว้ช่วยงานแม่ที่บ้านบนดาว Tatooine จนได้ไปรับมาอยู่กับ Padme และอยู่กับ Star Wars เรื่อยมา
ชุดนี้ถูกใส่โดย Anthony Daniels ซึ่งทำให้เค้าคนนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้แสดงในหนังทุกเรื่องของ Star Wars เพราะ Threepio แกไปโผล่ทุกเรื่องจริงๆ และชุดนี้ใส่แล้วขยับยากมากจนทีมงานต้องเอาไม้กระดานมาให้ Anthony ยืนพิงพักผ่อนระหว่างเซ็ตเพราะนั่งไม่ได้กันเลย

ส่วนด้านล่างนี้เป็น Droid ที่อาจจะไม่รู้จักกันมากนักแต่ George Lucas และทีมงานก็ทำงานอย่างหนักในการออกแบบขึ้นมาเช่นกัน
Battle Droid เป็น Droid ที่เห็นเยอะโคตรเพราะถูกผลิตออกมาทำสงครามให้กับกองทัพแบ่งแยก (Seperatist) ในภาค Prequel 1 - 3 และ animation series เรื่อง The Clone Wars ถึงแม้ว่าในหนังทั้งหมดจะใช้ CGI แต่ทีมงานก็สร้างโมเดลขนาดจริงไว้เป็นตัวอย่างในการสร้าง CGI เช่นกัน
EV-9D9 เป็นดรอยด์ซาดิสที่ทำงานให้ Jabba The Hutt ที่ชอบทำร้ายดรอยด์ด้วยกันและเป็นหัวหน้า R2-D2 กับ C-3PO ตอนที่ Luke เอาไปแลกไถ่ตัว Han Solo
RA-7 เป็น Imperial Droid ที่ถูกเผ่า Jawa บนดาว Tatooine จับมาขายพร้อม R2-D2 กับ C-3PO ใน A New Hope
8D8 ดรอยด์ที่เอาเหล็กเผาไฟจิ้มหุ่นตัวอื่นในฉากที่ Jabba Palace ใน The Return of the Jedi



โซน 4 เอเลี่ยน
แน่นอนว่าหนังระดับกาแล็กซีจักรวาลตัวละครที่เป็นเอเลี่ยนต้องมีมากมายและตรงส่วนนี้ก็แสดงให้เห็นถึงกระบวนการออกแบบสิ่งมีชีวิตเหล่านี้
ด้านล่างนี้เป็นโมเดลที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นแบบให้ CGI ในฉากที่ Anakin ในวัยเด็กลงแข่ง Podracing บนดาว Tatooine ใน The Phantom Manace ทั้งนี้เพื่อให้การสร้าง CGI สมจริงและรูปร่างคงเส้นคงวาตลอดทุกมุมกล้อง
ส่วนหัวด้านล่างนี้เป็นของ Pondo Baba เอเลี่ยนที่โผล่มาปล้น Obi-wan กับ Luke ใน Cantina ที่ Mos Eisley แล้วโดนลุง Ben ตัดแขนโชว์ไปเลย ไหนบอกเจไดต้องใจนิ่งๆ ลุงตัดแขนคนกับเรื่องแค่นี้เองหรือ
สิ่งที่ทำให้ชุดส่วนหัวนี้มีค่ามากก็เพราะมันเป็นหนึ่งในไม่กี่ไอเท็มที่เหลือรอดจากการถ่ายทำฉาก Cantina ใน A New Hope นั่นเอง

นอกจากนั้นด้านล่างเป็นภาพวาด concept art ที่ George Lucas จ้างนักเขียนการ์ตูน Ron Cobb ให้วาดขึ้น 1 ปีหลังถ่ายทำฉาก Cantina ไปแล้วเพื่อทำให้ร้านเหล้านี้มีลูกค้าหน้าตาหลากหลายมากขึ้น
George Lucas อยากจะให้ฉากเหล่านี้ทำให้คนดูรู้สึกว่านี่ไม่ใช่โลกของมนุษย์อีกต่อไปเพราะเหล่าเอเลี่ยนหน้าตาแปลกนั่งกินดื่มฟังเพลงกันเป็นเรื่องปกติจนทำให้รู้สึกว่ามนุษย์เองนี่แหละเป็นเอเลี่ยน

โซน 5 ดาว Tatooine
ดาว Tatooine เป็นดาวหลักๆของในเรื่อง Star Wars เลยทีเดียวเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวมากมายไม่ว่าจะเป็นดาวบ้านเกิดของตัวเอกทั้ง Luke และ Anakin Skywalker และยังเป็นศูนย์รวมเหล่าวายร้ายและนักล่าค่าหัว (Bounty Hunter)
ส่วนแรกเป็นการออกแบบตัวละครของ Luke Skywalker และ Leia Organa ตัวละครหลักของภาค Original Trilogy ภาพวาดอันแรกเป็น concept art ที่ George Lucas จ้างศิลปิน Ralph McQuarrie ให้ช่วยวาดภาพตามจินตนาการของเค้าให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา พูดได้เลยว่า Ralph McQuarrie เป็นอิทธิพลสำคัญที่ทำให้ Star Wars ออกมาหน้าตาเป็นแบบที่เห็นอยู่ ยิ่งถ้าใครชอบดูงานศิลปะได้เห็นภาพวาด concept art ดั้งเดิมเข้าไปแบบนี้ทำให้ตื่นเต้นเอามากๆเลย
ส่วนอีกสองภาพเป็นการออกแบบของ Luke และ Leia ในช่วงแรกๆ หน้าตาละม้ายคล้ายกันเพราะตั้งใจให้เป็นฝาแฝดกัน

ถัดมาจะมีอุปกรณ์หน้าตาซับซ้อนวางอยู่คือ Meson Taloscope เป็นเครื่องมือที่ Obi-wan ใน The Phantom Manace ใช้ตรวจวัดค่า Midichlorian ในเลือดของ Anakin พอตรวจดูว่าอยู่มากทำให้รู้ว่า Anakin มีจำนวน Midichlorian อยู่มากและแปลว่ามีพลังมาก (The Force) และเครื่องเล็กๆเป็นเครื่องมือสื่อสารของเจไดหรือ Jedi Comlink ที่ Obi-wan ใช้สื่อสารกับ Quigon ตอนที่อยู่บนดาว Tatooine
โดยตัว Midichlorian นี้พึ่งถูกหยิบยกขึ้นมาในภาค The Phantom Manace และถูกเปรยๆว่าสามารถส่งต่อได้ทางพันธุกรรม

นอกจากตัวละครหลักแล้ว หลายๆคนคงคิดว่าเหล่าเอเลี่ยนใน The Phantom Manace เป็นคอมพิวเตอร์ CGI ทั้งหมดแต่ก็ยังมีบางตัวที่ถูกทำขึ้นมาเป็นหุ่นเชิดเพื่อความสมจริงมากขึ้นเพราะในหนังมีบทบาทมากคุ้มค่าการสร้างโมเดลขนาดเท่าของจริงขึ้นมา
การออกแบบสภาพแวดล้อมของดาว Tatooine เองก็มีให้เห็นด้วยเช่นกัน ด้านล่างนี้เป็น
ภาพร่างตัวละครของลุงกับป้าของ Luke ในหนังเรื่องแรก ในแบบร่างนี้ Luke ยังมีนามสกุลว่า Starkiller อยู่ ชื่อนี้ถูกเปลี่ยนให้เป็น Skywalker อย่างที่เรารู้จักกันแต่ว่า Starkiller ถูกเอาไปใช้กับตัวละครในเกม The Force Unleashed แทน
อีกภาพร่างของลุง Owen Lars กับป้า Beru Lars
ภาพร่างของ Shmi Skywalker แม่ของ Anakin กำลังทำกับข้าวอยู่

และภาพใหญ่สุดด้านล่างเป็นภาพสเก็ตช์ที่มี Anakin และ Shmi ยืนมองถนนด้านนอกในชุมชนบนดาว Tatooine เป็นการลงสีบนภาพวาดที่ทำสำเนาขึ้นมาจากต้นฉบับเพื่อออกแบบสีที่ลงตัวกันที่สุด

ส่วนต่อมาผมบอกก่อนเลยว่าเห็นแล้วประทับใจมากๆเพราะเป็นภาพวาด Concept Art ที่วาดขึ้นโดย Ralph McQuarrie ในตำนานที่ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว ภาพที่นำมาแสดงเป็นงานดั้งเดิมทั้งหมดทำให้ได้เห็นพื้นผิวของงานและการใช้แปรงต่างๆ การทำ Concept Art แบบนี้ไม่มีแล้วในปัจจุบันหลังจากที่ทุกคนหันมาใช้คอมพิวเตอร์ออกแบบกันหมด ผมหาภาพเท่าที่จะหาได้จากบนอินเตอร์เน็ตมาด้วยเพื่อที่จะให้ได้เห็นภาพชัดเจนกว่าที่ถ่ายมาจากในงานเพราะค่อนข้างมืดและเงาสะท้อนเยอะ

Street of Mos Eisley ถูกวาดขึ้นในปี 1995 หลังจากที่ Original Trilogy จบไปแล้วสำหรับหนังสือ The Mos Eisley Cantina Pop-Up Book

2. Overlooking Mos Eisley วาดในปี 1977 เป็นภาพ Luke Skywalker กับ Droid มองลงมาที่เมือง

3. R2-D2 กับ C-3PO ออกจาก Escape Pod วาดในปี 1975 และเป็นภาพแรกที่ Ralph McQuarrie วาดให้ George Lucas ในภาพจะเห็นว่า R2-D2 มีแขนด้วยซึ่งถูกตัดออกจากหนังจริง แต่ถ้าใครเคยดู Star Wars Rebels จะเห็นว่าแขนนี้เอามาใส่ให้ C1-10P หรือ Chop แทน

4. Tusken Raiders หรือบางคนเรียกว่า sand people ภาพนี้ Ralph คิดว่าชนเผ่าอยู่ในทะเลทรายควรมีแว่นแหละหน้ากากไว้กันทรายเข้าหูเข้าตา

5. Droids at Jabba's Palace

6. Jawa Village

7. Tusken Raiders at Night

8. Sandcrawler at Night ยานพาหนะของเผ่า Jawa บนดาว Tatooine

9. Jawa Swapmeet ภาพชนเผ่า Jawa มารวมตัวกันเพื่อทำการแลกเปลี่ยนของกันคล้ายๆคนแต่งรถ

ต่อมาก็จะมีชุดของ Tusken Raiders กับ Jawa ที่ใช้ถ่ายหนังภาคแรก ตัวจริงสูงปรี๊ด


ถ้าพูดถึง Tatooine แน่นอนว่าต้องมี Jabba the Hutt หัวหน้าแก๊งมาเฟียอวกาศ การออกแบบของ Jabba นั้นดูเหมือนจะมาไกลมากเพราะมีมาตั้งแต่ยังมีแขนขาใส่เสื้อผ้าเหมือนคนทั่วไปจนลดความเป็นคนลงเรื่อยๆเหลือเป็นแค่ก้อนๆ! นอกจากนี้ยังมีแสดงถึงร่างแบบของตัวละครในวังของ Jabba อีกด้วย ดูแล้วไม่ใช่คนดีซักตัว
และก่อนจะเป็น Jabba จริงๆก็ต้องมีการออกแบบเป็นโมเดลเล็กๆก่อนตามปกติ คำบรรยายบอกไว้ว่าในหนังภาคดั้งเดิมหุ่น Jabba ต้องใช้ 5 คนในการเชิดด้วยกันตรงแขน หาง ปาก และ ลูกตาที่กระพริบได้ ถึงตอนนี้มีไว้เหลือให้ดูแค่ลูกตาเท่านั้นเองจากชุดจริง


เมื่อพูดถึง Jabba คนที่โดนหมั่นไส้ที่สุดต้องเป็น Han Solo ตรงนี้มีพี่ Han ที่ถูกแช่แข็งใน Carbonite ที่ดาว Bespin และถูกขนมาส่ง Jabba โดย Boba Fett นั่นเอง แผ่นนี้เป็นพิมพ์จาก Harrison Ford แค่หน้ากับมือเท่านั้น ที่เหลือไม่รู้ของใคร ทำไมต้องทำให้น้ำลายไหลยืดขนาดนั้น

และอีกคนที่ขาดไม่ได้คือ Leia ในชุดนางทาสที่ใส่โดย Carrie Fisher นักแสดงทีหลังก็ดูเหมือนจะไม่พอใจที่ต้องใส่ชุดนี้เท่าไหร่เพราะต้องการเป็น fan service แบบไม่จำเป็น

โซน 6 อาจารย์โยดา (Master Yoda) และ ดาว Dagobah
ในภาค The Empire Strikes Back เป็นครั้งแรกที่ Luke เดินทางไปดาว Dagobah และเจอกับ Yoda ที่ลี้ภัยอยู่เพื่อขอเป็นศิษย์ฝึกวิชา Jedi ตามที่ผีลุง Ben หรือ Obi-wan มาคอยหลอกหลอน
มาถึงตรงนี้ก็ยังมีภาพสวยๆโดย Ralph McQuarrie ให้เห็นตลอด น่าจะเห็นภาพว่าคนคนนี้มีอิทธิพลกับ Star Wars ขนาดไหน

Minch House Interior ด้านในบ้านของโยดา ตอนนั้นอาจารย์โยดายังได้ชื่อว่า Minch อยู่

2. Minch House, Exterior
