top of page
  • รูปภาพนักเขียนOpp

STAR WARS™ Identities นิทรรศการสำหรับคนรักสตาร์วอร์ส

อัปเดตเมื่อ 15 เม.ย. 2566


Star Wars Identities Exhibition

สวัสดีมิตรรักแฟนเพลง หายหน้าไปนานเพราะพิษโควิดเพจท่องเที่ยวก็เลยต้องชะงัก แต่วันนี้ขอมาเนิร์ดให้ดูเพราะที่สิงคโปร์มีนิทรรศการ STAR WARS™ Identities ซึ่งจัดมาแล้วหลายประเทศทั่วโลกและสิงคโปร์เป็นขาสุดท้ายแล้ว ด้านในมีการจัดแสดงของดั้งเดิมในการถ่ายทำหนังอย่าง พร็อพ คอสตูม คอนเซ็ปต์อาร์ท มากมาย แน่นอนว่ามีหลายคนมาดูไม่ได้เลยอยากจะนำประสบการณ์มาฝากให้ได้อย่างครบถ้วนและแม่นยำเท่าที่จะทำได้ เพราะฉะนั้นบอกไว้ก่อนเลยว่าโพสนี้ยาว!


ArtScience Museum Singapore

สถานที่จัดงานคือที่ ArtScience Museum ที่ Marina Bay Sands ถึงจะเป็นวันอาทิตย์แต่คนไม่เยอะเท่าไหร่เพราะงานเค้าจำกัดคนเข้าตามช่วงเวลาป้องกันคนแน่นมากเกินไป


ตอนต่อแถวเข้างานพนักงานก็จะแจกสายคล้องข้อมือที่มีชิปติดอยู่ไว้สแกนกับเครื่องด้านในเพราะจะมีการสร้างตัวละครของเราเองจากเรื่อง Star Wars ได้ด้วย



ห้องแรกก็จะมีการแนะนำเปิดงานเล็กน้อยว่าด้านในจะไปเจออะไรกันบ้าง

 

โซน 1 Jar Jar Bink

ตัวละครที่เปิดตัวจากเรื่อง The Phantom Menace ชนเผ่า Gungan ที่อาศัยอยู่ใต้น้ำบนดาว Naboo เป็นตัวละครที่มีทั้งคนรักและคนชัง ตรงส่วนนี้แสดงให้เห็นว่ากว่าจะมาเป็นตัวเอเลี่ยนหน้าตาประหลาดแบบนี้ผ่านกระบวนการคิดมาแค่ไหน

ด้านล่างคือภาพวาดด้วยดินสอและดินสอสีเป็นการศึกษาใบหน้าของ Jar Jar ในแบบที่แสดงความรู้สึกต่างๆที่นักออกแบบ Iain McCaig ทำขึ้นเพื่อศึกษาและจัดว่างตำแหน่งของอวัยวะ


ส่วนโมเดลด้านล่างถูกทำขึ้นมาเพื่อช่วยนักทำ animation และ CGI ออกแบบท่าทางและใบหน้าของ Jar Jar ให้ดูตลกโปกฮา หรือจริงๆแล้วดูหลอนๆไงก็ไม่รู้

 

โซน 2 Cloning (โคลนนิ่ง)

***ตรงโซนนี้นิทรรศการบอกว่าเกี่ยวกับ Clone แต่ผมว่ามันแปลกๆเพราะตรงนี้มี Clone แค่คนเดียวคือ Boba Fett ที่เป็นโคลนของ Jango Fett

Boba fett costume

พอเดินมาถึงตรงนี้ทุกคนต่างกรีดร้องเพราะว่าชุดที่เห็นในตู้นี้เป็นชุดจริงๆที่ Jeremy Bulloch ใส่ถ่ายหนังภาค The Empire Strikes Back และตอนต้นของ The Return of the Jedi (และตายอย่างอนาถในไม่กี่นาที) ได้เห็นอย่างใกล้ชิดแบบนี้ก็คุ้มแล้วค่าเข้า

Boba fett costume
Boba fett costume
Boba fett costume

Boba fett costume

ยังไม่ลืมคนข้างๆคือ First Order Stormtrooper และ Stormtrooper ดั้งเดิมพร้อมหมวกสามใบ ในหนัง Star Wars เรื่องแรกชุด Stormtrooper ถูกทำขึ้นมาแค่ 50 ชุดเท่านั้นและนี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

stormtrooper costume
 

โซน 3 Droid

คงจะรู้กันแล้วว่า Droid ในเรื่อง Star Wars นี้มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนคนทั่วไปได้ด้วย โดยคำว่า Droid นี้ George Lucas เอามาจากภาษากรีกคำว่า Android ที่แปลว่าเปรียบเสมือนคนนั่นเอง

star wars droids

พอมาถึงตรงนี้ก็เรียกว่ากลับบ้านได้เพราะได้มาเจอกับอาร์ทูหรือ R2-D2 ตัวจริงแล้ว ชุด R2-D2 อันนี้เป็นตัวเดียวกับที่ Kenny Baker เข้าไปนั่งบังคับข้างในในหนัง A New Hope ด้วย แต่จริงๆแล้วโมเดลอาร์ทูถูกทำขึ้นมาเยอะมากและบางตัวต้องใช้คนเข้าไปบังคับและบางตัวบังคับได้ด้วยรีโมทจ้า

original r2-d2
original r2-d2

ส่วนข้างอาร์ทูไม่ใช่ใครอื่น BB8 ที่ออกมาในหนังภาค Sequel 7 - 9 ที่คอยกลิ้งไปกลิ้งมา ชื่อ BB8 นี้ถูกตั้งโดย J.J. Abrams เพราะรูปร่างน้องเค้าเหมือนตัว B กับเลข 8

Original bb8

ข้างๆอาร์ทูเป็นเพื่อนซี้เค้าเอง C-3PO หรือ Threepio โปรโตคอล ดรอยด์ที่อนาคินประกอบขึ้นตอนยังเด็กไว้ช่วยงานแม่ที่บ้านบนดาว Tatooine จนได้ไปรับมาอยู่กับ Padme และอยู่กับ Star Wars เรื่อยมา


ชุดนี้ถูกใส่โดย Anthony Daniels ซึ่งทำให้เค้าคนนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้แสดงในหนังทุกเรื่องของ Star Wars เพราะ Threepio แกไปโผล่ทุกเรื่องจริงๆ และชุดนี้ใส่แล้วขยับยากมากจนทีมงานต้องเอาไม้กระดานมาให้ Anthony ยืนพิงพักผ่อนระหว่างเซ็ตเพราะนั่งไม่ได้กันเลย

c3p0 costume

ส่วนด้านล่างนี้เป็น Droid ที่อาจจะไม่รู้จักกันมากนักแต่ George Lucas และทีมงานก็ทำงานอย่างหนักในการออกแบบขึ้นมาเช่นกัน

  1. Battle Droid เป็น Droid ที่เห็นเยอะโคตรเพราะถูกผลิตออกมาทำสงครามให้กับกองทัพแบ่งแยก (Seperatist) ในภาค Prequel 1 - 3 และ animation series เรื่อง The Clone Wars ถึงแม้ว่าในหนังทั้งหมดจะใช้ CGI แต่ทีมงานก็สร้างโมเดลขนาดจริงไว้เป็นตัวอย่างในการสร้าง CGI เช่นกัน

  2. EV-9D9 เป็นดรอยด์ซาดิสที่ทำงานให้ Jabba The Hutt ที่ชอบทำร้ายดรอยด์ด้วยกันและเป็นหัวหน้า R2-D2 กับ C-3PO ตอนที่ Luke เอาไปแลกไถ่ตัว Han Solo

  3. RA-7 เป็น Imperial Droid ที่ถูกเผ่า Jawa บนดาว Tatooine จับมาขายพร้อม R2-D2 กับ C-3PO ใน A New Hope

  4. 8D8 ดรอยด์ที่เอาเหล็กเผาไฟจิ้มหุ่นตัวอื่นในฉากที่ Jabba Palace ใน The Return of the Jedi

battle droid

 

โซน 4 เอเลี่ยน

แน่นอนว่าหนังระดับกาแล็กซีจักรวาลตัวละครที่เป็นเอเลี่ยนต้องมีมากมายและตรงส่วนนี้ก็แสดงให้เห็นถึงกระบวนการออกแบบสิ่งมีชีวิตเหล่านี้


ด้านล่างนี้เป็นโมเดลที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นแบบให้ CGI ในฉากที่ Anakin ในวัยเด็กลงแข่ง Podracing บนดาว Tatooine ใน The Phantom Manace ทั้งนี้เพื่อให้การสร้าง CGI สมจริงและรูปร่างคงเส้นคงวาตลอดทุกมุมกล้อง

ส่วนหัวด้านล่างนี้เป็นของ Pondo Baba เอเลี่ยนที่โผล่มาปล้น Obi-wan กับ Luke ใน​ Cantina ที่ Mos Eisley แล้วโดนลุง Ben ตัดแขนโชว์ไปเลย ไหนบอกเจไดต้องใจนิ่งๆ ลุงตัดแขนคนกับเรื่องแค่นี้เองหรือ


สิ่งที่ทำให้ชุดส่วนหัวนี้มีค่ามากก็เพราะมันเป็นหนึ่งในไม่กี่ไอเท็มที่เหลือรอดจากการถ่ายทำฉาก Cantina ใน A New Hope นั่นเอง

นอกจากนั้นด้านล่างเป็นภาพวาด concept art ที่ George Lucas จ้างนักเขียนการ์ตูน Ron Cobb ให้วาดขึ้น 1 ปีหลังถ่ายทำฉาก Cantina ไปแล้วเพื่อทำให้ร้านเหล้านี้มีลูกค้าหน้าตาหลากหลายมากขึ้น


George Lucas อยากจะให้ฉากเหล่านี้ทำให้คนดูรู้สึกว่านี่ไม่ใช่โลกของมนุษย์อีกต่อไปเพราะเหล่าเอเลี่ยนหน้าตาแปลกนั่งกินดื่มฟังเพลงกันเป็นเรื่องปกติจนทำให้รู้สึกว่ามนุษย์เองนี่แหละเป็นเอเลี่ยน

 

โซน 5 ดาว Tatooine

ดาว Tatooine เป็นดาวหลักๆของในเรื่อง Star Wars เลยทีเดียวเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวมากมายไม่ว่าจะเป็นดาวบ้านเกิดของตัวเอกทั้ง Luke และ Anakin Skywalker และยังเป็นศูนย์รวมเหล่าวายร้ายและนักล่าค่าหัว (Bounty Hunter)


ส่วนแรกเป็นการออกแบบตัวละครของ Luke Skywalker และ Leia Organa ตัวละครหลักของภาค Original Trilogy ภาพวาดอันแรกเป็น concept art ที่ George Lucas จ้างศิลปิน Ralph McQuarrie ให้ช่วยวาดภาพตามจินตนาการของเค้าให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา พูดได้เลยว่า Ralph McQuarrie เป็นอิทธิพลสำคัญที่ทำให้ Star Wars ออกมาหน้าตาเป็นแบบที่เห็นอยู่ ยิ่งถ้าใครชอบดูงานศิลปะได้เห็นภาพวาด concept art ดั้งเดิมเข้าไปแบบนี้ทำให้ตื่นเต้นเอามากๆเลย


ส่วนอีกสองภาพเป็นการออกแบบของ Luke และ Leia ในช่วงแรกๆ หน้าตาละม้ายคล้ายกันเพราะตั้งใจให้เป็นฝาแฝดกัน

ถัดมาจะมีอุปกรณ์หน้าตาซับซ้อนวางอยู่คือ Meson Taloscope เป็นเครื่องมือที่ Obi-wan ใน The Phantom Manace ใช้ตรวจวัดค่า Midichlorian ในเลือดของ Anakin พอตรวจดูว่าอยู่มากทำให้รู้ว่า Anakin มีจำนวน Midichlorian อยู่มากและแปลว่ามีพลังมาก (The Force) และเครื่องเล็กๆเป็นเครื่องมือสื่อสารของเจไดหรือ Jedi Comlink ที่ Obi-wan ใช้สื่อสารกับ Quigon ตอนที่อยู่บนดาว Tatooine


โดยตัว Midichlorian นี้พึ่งถูกหยิบยกขึ้นมาในภาค The Phantom Manace และถูกเปรยๆว่าสามารถส่งต่อได้ทางพันธุกรรม

นอกจากตัวละครหลักแล้ว หลายๆคนคงคิดว่าเหล่าเอเลี่ยนใน The Phantom Manace เป็นคอมพิวเตอร์ CGI ทั้งหมดแต่ก็ยังมีบางตัวที่ถูกทำขึ้นมาเป็นหุ่นเชิดเพื่อความสมจริงมากขึ้นเพราะในหนังมีบทบาทมากคุ้มค่าการสร้างโมเดลขนาดเท่าของจริงขึ้นมา

การออกแบบสภาพแวดล้อมของดาว Tatooine เองก็มีให้เห็นด้วยเช่นกัน ด้านล่างนี้เป็น

  1. ภาพร่างตัวละครของลุงกับป้าของ Luke ในหนังเรื่องแรก ในแบบร่างนี้ Luke ยังมีนามสกุลว่า Starkiller อยู่ ชื่อนี้ถูกเปลี่ยนให้เป็น Skywalker อย่างที่เรารู้จักกันแต่ว่า Starkiller ถูกเอาไปใช้กับตัวละครในเกม The Force Unleashed แทน

  2. อีกภาพร่างของลุง Owen Lars กับป้า Beru Lars

  3. ภาพร่างของ Shmi Skywalker แม่ของ Anakin กำลังทำกับข้าวอยู่

และภาพใหญ่สุดด้านล่างเป็นภาพสเก็ตช์ที่มี Anakin และ Shmi ยืนมองถนนด้านนอกในชุมชนบนดาว Tatooine เป็นการลงสีบนภาพวาดที่ทำสำเนาขึ้นมาจากต้นฉบับเพื่อออกแบบสีที่ลงตัวกันที่สุด


ส่วนต่อมาผมบอกก่อนเลยว่าเห็นแล้วประทับใจมากๆเพราะเป็นภาพวาด Concept Art ที่วาดขึ้นโดย Ralph McQuarrie ในตำนานที่ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว ภาพที่นำมาแสดงเป็นงานดั้งเดิมทั้งหมดทำให้ได้เห็นพื้นผิวของงานและการใช้แปรงต่างๆ การทำ Concept Art แบบนี้ไม่มีแล้วในปัจจุบันหลังจากที่ทุกคนหันมาใช้คอมพิวเตอร์ออกแบบกันหมด ผมหาภาพเท่าที่จะหาได้จากบนอินเตอร์เน็ตมาด้วยเพื่อที่จะให้ได้เห็นภาพชัดเจนกว่าที่ถ่ายมาจากในงานเพราะค่อนข้างมืดและเงาสะท้อนเยอะ

  1. Street of Mos Eisley ถูกวาดขึ้นในปี 1995 หลังจากที่ Original Trilogy จบไปแล้วสำหรับหนังสือ The Mos Eisley Cantina Pop-Up Book

2. Overlooking Mos Eisley วาดในปี 1977 เป็นภาพ Luke Skywalker กับ Droid มองลงมาที่เมือง

3. R2-D2 กับ C-3PO ออกจาก Escape Pod วาดในปี 1975 และเป็นภาพแรกที่ Ralph McQuarrie วาดให้ George Lucas ในภาพจะเห็นว่า R2-D2 มีแขนด้วยซึ่งถูกตัดออกจากหนังจริง แต่ถ้าใครเคยดู Star Wars Rebels จะเห็นว่าแขนนี้เอามาใส่ให้ C1-10P หรือ Chop แทน

4. Tusken Raiders หรือบางคนเรียกว่า sand people ภาพนี้ Ralph คิดว่าชนเผ่าอยู่ในทะเลทรายควรมีแว่นแหละหน้ากากไว้กันทรายเข้าหูเข้าตา

5. Droids at Jabba's Palace

6. Jawa Village

7. Tusken Raiders at Night

8. Sandcrawler at Night ยานพาหนะของเผ่า Jawa บนดาว Tatooine

9. Jawa Swapmeet ภาพชนเผ่า Jawa มารวมตัวกันเพื่อทำการแลกเปลี่ยนของกันคล้ายๆคนแต่งรถ

ต่อมาก็จะมีชุดของ Tusken Raiders กับ Jawa ที่ใช้ถ่ายหนังภาคแรก ตัวจริงสูงปรี๊ด



ถ้าพูดถึง Tatooine แน่นอนว่าต้องมี Jabba the Hutt หัวหน้าแก๊งมาเฟียอวกาศ การออกแบบของ Jabba นั้นดูเหมือนจะมาไกลมากเพราะมีมาตั้งแต่ยังมีแขนขาใส่เสื้อผ้าเหมือนคนทั่วไปจนลดความเป็นคนลงเรื่อยๆเหลือเป็นแค่ก้อนๆ! นอกจากนี้ยังมีแสดงถึงร่างแบบของตัวละครในวังของ Jabba อีกด้วย ดูแล้วไม่ใช่คนดีซักตัว

และก่อนจะเป็น Jabba จริงๆก็ต้องมีการออกแบบเป็นโมเดลเล็กๆก่อนตามปกติ คำบรรยายบอกไว้ว่าในหนังภาคดั้งเดิมหุ่น Jabba ต้องใช้ 5 คนในการเชิดด้วยกันตรงแขน หาง ปาก และ ลูกตาที่กระพริบได้ ถึงตอนนี้มีไว้เหลือให้ดูแค่ลูกตาเท่านั้นเองจากชุดจริง

เมื่อพูดถึง Jabba คนที่โดนหมั่นไส้ที่สุดต้องเป็น Han Solo ตรงนี้มีพี่ Han ที่ถูกแช่แข็งใน Carbonite ที่ดาว Bespin และถูกขนมาส่ง Jabba โดย Boba Fett นั่นเอง แผ่นนี้เป็นพิมพ์จาก Harrison Ford แค่หน้ากับมือเท่านั้น ที่เหลือไม่รู้ของใคร ทำไมต้องทำให้น้ำลายไหลยืดขนาดนั้น

และอีกคนที่ขาดไม่ได้คือ Leia ในชุดนางทาสที่ใส่โดย Carrie Fisher นักแสดงทีหลังก็ดูเหมือนจะไม่พอใจที่ต้องใส่ชุดนี้เท่าไหร่เพราะต้องการเป็น fan service แบบไม่จำเป็น

 

โซน 6 อาจารย์โยดา (Master Yoda) และ ดาว Dagobah

ในภาค The Empire Strikes Back เป็นครั้งแรกที่ Luke เดินทางไปดาว Dagobah และเจอกับ Yoda ที่ลี้ภัยอยู่เพื่อขอเป็นศิษย์ฝึกวิชา Jedi ตามที่ผีลุง Ben หรือ Obi-wan มาคอยหลอกหลอน


มาถึงตรงนี้ก็ยังมีภาพสวยๆโดย Ralph McQuarrie ให้เห็นตลอด น่าจะเห็นภาพว่าคนคนนี้มีอิทธิพลกับ Star Wars ขนาดไหน

  1. Minch House Interior ด้านในบ้านของโยดา ตอนนั้นอาจารย์โยดายังได้ชื่อว่า Minch อยู่

2. Minch House, Exterior

3. X-Wing in Bog ดีเทลต่างๆบนตัวยานบอกได้เลยว่ารูปนี้มันเทียบกับที่เห็นด้วยตาไม่ได้จริงๆ

4. Luke Leaves Dagobah เป็นฉากที่ Luke จะหนีไปช่วยเพื่อน ทุกคนพยายามห้ามแต่วัยรุ่นใจร้อน

ส่วนด้านล่างเป็นอีกส่วนนึงของการออกแบบแต่ละฉากคือ story board ถ้าอ่านดีๆจะเห็นว่า Ben ที่เป็นผีมีการพูดแทรกตลอด อ่านแล้วก็งงดีว่าใครพูดอยู่กันแน่!


กว่าจะออกมาเป็น Yoda ตัวเตี้ยๆเขียวๆนี้ก็ผ่านการปรับเปลี่ยนมาแล้วมากมาย ที่อ่านแล้วไม่อยากเชื่อคือก่อนจะตัดสินใจใช้หุ่นเชิดเป็นโยดานั้น ทีมงานเถียงกันมากมายว่าจะใช้วิธีถ่ายแบบ stop-motion หรือว่าจะใช้ลิงใส่ชุดดี


 

โซน 7 Ahsoka Tano จาก The Clone Wars

Ahsoka Tano ออกมาครั้งแรกในหนังอนิเมชั่นเรื่อง The Clone Wars ที่เป็นซีรีย์ที่จบไปไม่นานและบอกเลยว่าเป็นการทำให้เรื่องราว Sequel Trilogy ยิ่งเศร้าไปกว่าเดิม ใครยังไม่ดูแนะนำเลย

เพราะว่า Ahsoka ที่ผ่านมาออกมาทั้งหมด​ (ยกเว้น Mandalorian) เป็นแบบการ์ตูนอนิเมชั่นการออกแบบเลยดูแล้วเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นยังไงบอกไม่ถูก การออกแบบนั้นก็คิดวิเคราะห์เยอะมากทั้งการแสดงอารมณ์บนสีหน้า แล้วยังเรื่องสีบนหน้าด้วยว่าแบบไหนออกมาลงตัวที่สุด


โมเดลที่สร้างขึ้นมาช่วยทีมงานอนิเมชั่นเข้าใจในทิศทางของแสงที่ตกลงบนหน้าและตัวของโมเดลและทำให้ได้หน้าตาการ์ตูนที่ดูเหลี่ยมอย่างมีเอกลักษณ์ที่เห็นกัน

 

โซน 8 Rebels

กองทัพ Rebels ที่ทำสงครามกับจักรวรรดิมาตั้งแต่รุ่นพ่อยันรุ่นหลานก็ยังไม่จบสิ้น การออกแบบชุดนั้นดูแล้วค่อนข้างเรียบง่ายเพราะไม่ได้มีเครื่องแบบเฉพาะเหมือนฝั่ง Empire


หมวกนักบินนี้ถูกสวมใส่โดยนักแสดงมากมายและที่เห็นหน้ากากสีเหลืองนี้ไม่ใช่เพราะว่าทำแล้วเท่แต่อย่างใดแต่เป็นเพราะตอนถ่ายทำอากาศร้อนมากจนเหงื่อไหลเครื่องสำอางเยิ้มจนต้องทำให้เป็นสีเหลืองไว้บดบัง makeup ที่พังพินาศ แต่ถึงแบบนั้นหนังภาคใหม่อย่าง The Force Awaken ก็เก็บสีเหลืองไว้เพราะเป็นภาพติดตาไปเสียแล้ว

อย่างไรก็ตามการออกแบบก็มีให้เห็นบ้างไม่ว่าจะเป็นโลโก้แบบที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้และชุดต่างๆ

ส่วนภาพนี้เป็นภาพที่ประชุมของกองทัพ Rebels โดย Ralph McQuarrie ท่านเดิม เป็นภาพที่ดูหลายรอบก็ยังมีรายละเอียดที่มองไม่เห็นก่อนหน้านี้

และแล้วก็มาถึงชุดของ Luke Skywalker ใน A New Hope ที่ใส่ไประเบิดสถานีอวกาศ Death Star กับ กองบิน Red Squardron ในตำแหน่ง Red Five

 

โซน 9 ยานพาหนะ

ตรงนี้น่าจะเป็นที่ๆหลายๆคนตื่นเต้นที่ได้เห็นเพราะมันเหมือนเป็นของเล่นชิ้นใหญ่มากมายอยู่ตรงหน้า เปิดด้วยรูปนี้เลย ทีมจัดงานทำออกมาให้เหมือนกับยานต่างๆบินเข้าไปใน Hyperspace เท่มากๆ

ส่วนรายละเอียดยานอื่นๆอีกมากมาย

1. A-Wing Starfighter ยานที่ออกมาครั้งแรกใน The Return of the Jedi ที่ใช้ต่อสู้กับ Death Star บนดวงจันทร์ Endor

2. B-Wing Starfighter เป็นยานที่ออกแบบมาสวยงามมากเกินไป ด้วยความบางทำให้กล้องจับไม่ค่อยติดเลยมีบทบาทน้อยมาก ถ้าใครชอบลำนี้มีเรื่องราวที่มาที่ไปใน Star Wars Rebels ซีซั่น 2 ตอนที่ 7

3. Mon Calamari Starcruiser เป็นยานลำใหญ่ที่เอาไว้ต่อกรกับ Star Destroyer ของ Empire เป็นหลัก ลำที่โชว์อยู่นี้ชื่อว่า Liberty ส่วน Home One ของ Admiral Ackbar ไม่ได้มาด้วยจ้า

4. Rebel Snowspeeder ที่ Rebels ใช้บนดาว Hoth โมเดลนี้ถูกสร้างมาสามขนาดด้วยกันและที่เห็นอยู่เป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดที่ความกว้างสองไม้บรรทัดครี่ง

5. Slave 1 ยานของ Boba Fett ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ว่านั่งไม่น่าสบายและจุดอับสายตาเยอะ

6. TIE Fighter ยานหลักกองทัพ Imperial สำหรับใครที่สงสัย TIE ย่อมาจาก Twin-Ion Engine

7. Imperial Shuttle ยานเดียวกับที่ Emperor บินมาลงที่ Death Star 2


8. TIE Interceptor ถูกสร้างมาให้ดูรวดเร็วขึ้นด้วยปลายปีกแหลม

9. TIE Bomber

10. TIE Fighter Advanced เป็นยานของ Darth Vader ที่เห็นใน A New Hope

11. AT-AT Walker (All Terrain Armoured Transport) โมเดลนี้ใช้ถ่ายทำฉากต่อสู้บนดาว Hoth โดยทีมงานศึกษาการเดินของช้างและนำมาใช้กับ walker ตัวนี้

12. Star Destroyer ยานสัญลักษณ์ของจักรวรรดิที่ออกมาครั้งแรกกำลังไล่ล่ายานของ Leia แต่ว่าลำนี้ถูกทำขึ้นใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม 3 เท่า ดูรายละเอียดแล้วเป็นลม

13. Millenium Falcon ชื่อนี้คนไม่เคยดูหนังก็ยังเคยได้ยิน ลำที่เห็นนี้ถูกทำขึ้นมาเล็กกว่าลำแรกที่ใหญ่กว่านี้อีกเท่าตัว แต่เพราะว่าใช้ถ่ายทำลำบากมากทีมงานเลยต้องย่อส่วนให้เล็กลงเพื่อที่จะบิดผาดโผนได้ง่ายขึ้น

แบบแผนของยาน กล่าวว่า George Lucas คิดถึงแฮมเบอร์เกอร์ตอนที่ออกแบบยานนี้และใส่ส่วนที่แหลมๆเข้าไปให้รู้ตรงไหนหน้าหลัง

ภาพวาด Concept Art ของ Ralph McQuarrie เกี่ยวกับเรื่องราวบนดาว Bespin ที่ Han Solo กับพวกถูกหักหลังโดย Lando Calrissian อย่างจำใจ ผมเจอรูปบนอินเตอร์เน็ตไม่ครบทุกภาพในส่วนนี้นะครับ

Lando พาพวกของ Leia หนีจาก Stormtrooper และ Darth Vader

Cloud Car และ Cloud City

ภาพที่ Darth Vader เซอร์ไพร์ส Han Solo และผองเพื่อน ตอนนั้น Boba Fett ยังมีชุดเป็นสีขาวอยู่เลย

 

โซน 10 ลูกเรือ Millenium Falcon

ชุดนักแสดงที่ได้ใช้ชีวิตบน Millenium Falcon ใน The Empire Strikes Back แต่จุดนี้เหมือนจะเน้นไปที่ Chewbacca หรือ Chewie เป็นส่วนใหญ่ มายืนดูชุดแล้ว คนใส่นี่เป็นคนหรือยักษ์


เหมือนๆกับทุกตัวละคร เอเลี่ยนตัวขนๆสายพันธุ์ Wookie ผ่านการเปลี่ยนแบบมากมายจากมีหูแหลม กลับไปผอม จนมาหน้าเหมือนลิงตัวสูงอย่างที่เห็นอยู่ ถ้าใครดู Star Wars Rebels หรือเล่นเกม Star Wars Jedi: Fallen Order ก็จะเห็นว่ามีเอเลี่ยนสายพันธุ์ Lasat อยู่ในเนื้อเรื่องด้วย พูดง่ายก็คือตัวละคร recycle จาก Chewbacca นี่เอง

 

โซน 11 Padme Amidala

ใครที่โตมากับ Prequel Trilogy ก็คงมีไม่น้อยที่หลงไหลในตัว Nalalie Portman ถ้าบอกว่าตัวจริงมาร่วมงานวันนี้ด้วยจะเชื่อมั้ย..... ดีแล้วที่ไม่เชื่อเพราะมาแต่ชุดที่ใส่ถ่ายหนัง

ชุดที่มาแสดงนั้นแบ่งตามสามเหตุการณ์ก็คือตอนที่เป็นราชินีดาว Naboo ในตอนจบ The Phantom Manace ตอนที่ไปผจญภัยกับ Anakin ในชุดวิปัสนา และชุดวุฒิสมาชิกที่ใส่ในตอนจบของ The Revenge of the Sith ในตอนที่ Palpatine แต่งตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ

 

โซน 12 จักรพรรดิ (Emperor)

ผู้ร้ายตัวหลักของเรื่องที่เป็นทั้งต้นเหตุและจุดจบของหายนะ ถึงแม้จะมีหน้าตาเป็นคนแต่ก็ต้องผ่านการออกแบบมาเช่นกันทั้งเสื้อผ้าและท่าทางที่ทำให้ดูชั่วร้ายแบบถึงใจ

ภาพร่างด้านซ้ายเป็นการออกแบบเบื้องต้นแต่จะเห็นว่าไม่ได้นำมาใช้จริง แต่พอดูแล้วเหมือนกับว่าแบบร่างนี้ถูกเอากลับมาใช้ใหม่ให้ Snoke ที่ว่ากันว่าเป็นร่างโคลนของ Emperor Palpatine ในภาพ Sequel Trilogy


ส่วนทางขวานั้นเป็นการศึกษาสีหน้าของ Supreme Chancellor Palpatine ใน The Clone Wars

ชิ้นงานด้านล่างนี้ไม่ได้คาดคิดว่าจะเอามาแสดงด้วย ถ้าใครดูหนังไม่ได้สังเกตจริงๆจะไม่เห็น แผ่นหินสลักบรรยายภาพสงครามการต่อสู้ระหว่าง Jedi กับ Sith นี้ถูกประดับไว้ที่ห้องทำงานของ Supreme Chancellor Palpatine ใน The Revenge of the Sith ในฉากที่ลุงเค้าพยายามล่อลวง Anakin มาเป็นเด็กในสังกัดก่อนที่ Anakin จะไปรายงานให้ Mace Windu รู้ว่า Chancellor เป็น Sith Lord

 

โซน 12 Jedi

เป็นส่วนที่รวบรวมชุดเสื้อผ้าของเหล่านักรบเจไดไว้ตั้งแต่ในภาค Original มาจนถึง Prequel Trilogy



ภาพเรียงจากซ้ายไปขวาและบนลงล่าง

1. Kit Fisto ใส่โดย Ben Cooke

2. Mace Windu ใส่โดย Samuel L. Jackson

3. Obi-wan Kenobi ใส่โดย Ewan McGregor

4. Plo Koon ใส่โดย Matt Sloan

5. Luke Skywalker ใส่โดย Mark Hamill















 

โซน 13 Darth Vader

ตัวละครที่นับได้ว่าเป็นที่รู้จักมากที่สุดทั้งหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ไปจนถึงเสียงหายใจ นับได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวละครไม่กี่ตัวที่เราได้เห็นช่วงชีวิตตั้งแต่ต้นจนจบ

การออกแบบเบื้องต้นนั้นในสองภาพแรกทำโดย Ralph McQuarrie ทั้งส่วนผ้าคลุมดำไปจนถึงหน้ากาก ส่วนภาพที่สามนั้นเป็นการออกแบบของ John Mollo นักออกแบบเสื้อผ้าชื่อดังในสมัยนั้น หน้าตาออกมาแล้วคล้ายชุดเกราะซามูไร


ภาพที่สี่เป็นภาพร่างปราสาทของ Darth Vader ที่คิดว่าจะใช้เป็นฐานทัพของตัวร้ายตัวนี้แต่ถูกตัดทิ้งไปเสียก่อน อย่างไรก็ตามถ้าใครได้เล่นเกม Vader Immortal ที่เป็นเกมแบบ Virtual Reality จะเห็นว่าปราสาทถูกเอากลับมาใช้และตั้งอยู่บนดาว Mustafar ที่ที่เป็นต้นกำเนิดของ Darth Vader


ส่วนภาพที่ 4 และ 5 เป็นการออกแบบห้องที่ Darth Vader ใช้ทำสมาธิปฏิบัติธรรม ถูกออกแบบขึ้นมาเพราะว่า George Lucase และผู้กำกับ Irvin Kershner อยากให้คนดูได้เห็นถึงด้านความเป็นมนุษย์ของ Vader ด้วยและห้องนี้เป็นที่ที่ Vader สามารถถอดหน้ากากออกได้ตามลำพัง

นอกจากนั้นยังมีหน้ากากที่สามารถถอดออกได้มาจัดแสดงด้วย ให้เห็นว่าถึงแม้จะไม่ได้ใช้งานจริงแต่รายละเอียดและความตั้งใจให้ดูสมจริงถูกถ่ายทอดออกมาจากคอสตูม ถึงจะถูกเห็นในจอแค่ไม่กี่นาทีแต่ก็ยังต้องทำอย่างเต็มที่ นี่คงเป็นสาเหตุที่หนังเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในทุกผู้ทุกวัย

ชุดเต็มๆอีกรูปฝากไว้ตอนจบ

 

ก่อนปิดเรื่องต้องขอบอกเลยว่างานนี้ประทับใจที่สุดคือการออกแบบและวางแผนของ George Lucas กับ Ralph McQuarrie ที่ยังคงมีอิทธิพลของโลกภาพยนตร์จนถึงทุกวันนี้ กลับมาบ้านผมก็หาดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานของ Ralph และยังทำให้ประทับใจยิ่งขึ้นไปอีกเพราะงานของเค้ายังคงถูกใช้เป็นต้นแบบของหนัง Star Wars ใหม่ๆที่ Disney+ กำลังทำออกมา แบบนี้ที่เค้าว่าชื่อเสียงไม่มีวันตายจริงๆ


ถ้าใครสนใจลิงค์วีดีโอด้านล่างจะทำให้เข้าใจถึงความยิ่งใหญ่ของคนคนนี้มากขึ้นไปอีกครับ

Ralph McQuarrie, Star Wars Concept Artist: Tribute to a Master





ดู 157 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page